Thursday, 13 August 2009

อาหารเสริม ช่วยให้สวยได้

อาหารเสริม ช่วยให้สวยได้

ทราบหรือไม่ว่า อาหารเสริมก็ช่วยให้สวยได้
วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีสวยด้วยอาหารเสริมมาฝาก...


อาหารเสริม


1. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล เส้นผมเงางามไม่แห้งแตก เล็บแข็งแรงมีสุขภาพดี และลดการเกิดสิวได้ อีฟนิ่งพริมโรสเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ประกอบด้วยกรดไขมันหลายชนิด ที่สำคัญ คือ กรดไลโนเลอิก และกรดแกมมาไลโนเลนิก ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย เพราะสังเคราะห์เองไม่ได้

2. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ขจัดอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด ลดรอยเหี่ยวย่นและแห้งกร้าน

3. ไลโคปีน เป็นสารจำพวกแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารสีแดง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนัง

4. โปรตีนจากปลาทะเล เป็นสารโปรตีนคุณภาพดีที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย ช่วยบำรุงผิว แก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น รักษาแผลเป็นจากสิว บำรุงกระดูก เล็บ ข้อต่อ และผนังหลอดเลือด



รู้อย่างนี้แล้ว หันมาสวยด้วยอาหารเสริมกันดีกว่า


ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก

อาหารต้องห้าม ..ในยามบ่าย

อาหารต้องห้าม ..ในยามบ่าย

ขนม เค้ก cake

ตอนบ่ายนอกจากจะต้องสู้กับงานแล้ว หญิงเหล็กอย่างเรายังต้องสู้กับความง่วงที่มาพร้อมกับข้าวกลางวันมื้ออร่อยอีกด้วย และถ้าไม่อยากง่วง ก็ควรงดอาหารเหล่านี้



ช็อกโกแลต

นอกจากจะอร่อยแบบไม่มีลิมิตแล้ว ช็อกโกแลตยังมีสาร Phenylethylamine อยู่เพียบ และจะทำให้คุณง่วงนอนได้ในทันทีทันใด นี่ยังไม่นับน้ำตาลและไขมันอีกมหาศาล


ขนมปังขาวและข้าวขาว

ในแป้งขัดสีจะมีคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน ซึ่งจะเข้าสู่ตับอ่อนได้ทันที จากนั้นตับอ่อนก็จะหลั่งอินซูลินออกมา ทำให้เลือดมีน้ำตาลเพิ่มขึ้น ทีนี้สมองเราก็จะเบลอ .. เคลิ้ม และหลับ....


ผลิตภัณฑ์นม

ไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยว โยเกิร์ตหรือชาใส่นม เนื่องจากโปรตีนในนมจะหลั่งกรดอะมิโนออกมา และเมื่อร่างกายมีกรดมากเกินไปเราก็จะง่วงนอน

กล้วย

กล้วยเป็นอาหารแก้เครียด เพราะมันอุดมไปด้วยฮอร์โมนเซโรโทนินและนอร์เอพินฟริน ซึ่งทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา แต่ในสถานการณ์นี้ ความสุขที่คุณได้รับจะมาพร้อมความทุกข์ ถ้าเจ้านายผ่านมาเห็นตอนคุณหลับคาโต๊ะทำงาน

ที่มาจาก spicy

อาหารคู่ใจนักไดเอท

อาหารคู่ใจนักไดเอท

สลัด อาหาร

อาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารสูง แถมยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วย จึงเหมาะที่นักไดเอทจะพกไว้เป็นเสบียงคู่ใจเพื่อต่อสู้กับความหิวที่จะมาเยือนเวลาเราลดน้ำหนัก


1.
ลูกเกด

ลูกเกดมีแมงกานีสที่ช่วยให้ระบบการเผาผลาญอาหารของเราทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้การลดความอ้วนได้ผลและระบบย่อยก็ทำงานเป็นปกติ ส่วนระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของสาวๆ ที่กำลังไดเอทนั้น เจ้าลูกเกดก็จะช่วยให้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ไม่หิวบ่อย จะได้ไม่ต้องกินอะไรเพิ่ม

apple แอปเปิ้ล ผลไม้

2. แอปเปิ้ล
จะไดเอทกี่ทีก็ต้องมีแอปเปิ้ล เพราะมันเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารมาก กินแล้วหนักท้องดีนัก แถมยังไม่หวานจัด แคลอรีต่ำ และมีคุณค่าอาหารเพียบ ดีขนาดนี้ แม้แต่เวลาที่ไม่ไดเอท ก็ไม่ควรมองข้ามแอปเปิ้ลหรอกนะ



3. ลูกพรุน
ลูกพรุนคือสุดยอดแหล่งรวมวิตามิน กินแล้วช่วยให้ผิวสวย เหมาะสำหรับนักไดเอทที่มักจะมีผิวพรรณเหี่ยวแห้ง หน้าตาซีดเซียว นอกจากนี้ลูกพรุนยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ หมดปัญหาเรื่องหน้ามืดตาลายและทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี น้ำหนักจะได้ลดลงสมใจ


4. ข้าวกล้องและธัญพืชไม่ขัดขาว
ข้าวกล้องจะช่วยให้สาวๆ อิ่มนาน เพราะมันมีเส้นใยสูงมาก ทำให้หนักท้อง ตัดปัญหาเรื่องอยากกินของว่างหรือของจุกจิกทิ้งไปได้เลย ส่วนสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ในข้าวกล้องก็ดีต่อสุขภาพของเรา ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี หมดปัญหาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง

อาหาร ทะเล กุ้ง
5. อาหารทะเล
อาหารทะเลในที่นี้ไม่ได้หมายถึง หอยนางรม หรือปลาหมึกที่มีโคเลสเตอรอลสูง แต่ควรจะกินปลาตัวเล็กๆ ปลาทูน่า แซลมอน ปลาซีดีนเท่านั้น สารซีลีเนียม แมกนีเซียม แคลเซียม และสังกะสี ในปลาพวกนี้จะช่วยรักษาความสมดุลของระบบประสาท คุณจะได้ไม่กลายเป็นน้องเอ๋อ สมองเสื่อม คิดอะไรไม่ออกระหว่างที่ลดความอ้วนไง


ถั่ว

6. ถั่ว
คนที่ลดน้ำหนักมักจะอารมณ์ไม่ค่อยดี หงุดหงิดงุ่นง่านเห็นช้างเท่าหมูได้ทั้งวัน แต่ถ้าได้กินถั่วจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ เพราะร่างกายจะได้รับวิตามินบีและแมกนีเซียม ซึ่งช่วยการทำงานของระบบประสาทให้เป็นปกติ แค่นี้ก็ไม่ต้องกลายเป็นแม่หญิงสวยประหารประจำกลุ่มแล้ว

ที่มา..spicy

อาหาร เพิ่มพลังรัก

อาหาร เพิ่มพลังรัก

อาหาร เพิ่มพลังรัก กล้วย เชอร์รี่ หอย ผัก ผลไม้ เชอรี่, สตรอเบอร์รี่ ราสเบอรี่ มะเขือเทศ กล้วย องุ่น แอปริคอต แอปเปิ้ล มะม่วง มะละกอ พีช มะพร้าว ลูกแพร์ หอยนางรม เป๋าฮื้อ หอยเชลล์ กุ้ง ล็อบสเตอร์ ปลาน้ำลึก ปลาค็อด ปลาแซลมอน ช็อกโกแลต  แอลกอฮอล์ กาแฟ สูบบุหรี่

เป็นที่ร่ำลือกันมานานหลายต่อหลายศตวรรษถึงความมหัศจรรย์ของอาหารเพิ่มพลังรัก หรืออีโรติก ฟู้ด ที่แม้แต่นักรักระบือโลกอย่าง คาสโนวา ยังยอมรับว่า ก่อนลงมือเผด็จศึกทุกครั้ง ต้องปรนเปรอคู่รักด้วย “หอยนางรม” เพื่อจุดไฟรักให้ลุกโชนไร้ขีดจำกัด!! ขณะที่ในวัฒนธรรมของชาวกรีกกับชาวโรมัน นิยมเพิ่มพลังรักให้ปึ๋งปั๋งๆด้วยผลไม้แนวอีโรติก เช่นเดียวกับนักล่าอาณานิคมสเปน ที่เผยแพร่ชื่อเสียงของ “อะโว-คาโด” ให้เลื่องลือไปทั่วโลก ในฐานะ ยาโด๊ปปลุกพลังเซ็กซ์!!

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า คุณค่าในอาหารมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความรัก และเซ็กซ์ไลฟ์ ยิ่งทานอาหารดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดึ๋งดั๋งแฮปปี้กับเรื่องบนเตียงมากขึ้นเท่านั้น เพราะในอาหารหลายๆชนิดมีส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์รักให้คุกรุ่น แถมยังช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้อย่างอัศจรรย์

อาหาร เพิ่มพลังรัก กล้วย เชอร์รี่ หอย ผัก ผลไม้ เชอรี่, สตรอเบอร์รี่ ราสเบอรี่ มะเขือเทศ กล้วย องุ่น แอปริคอต แอปเปิ้ล มะม่วง มะละกอ พีช มะพร้าว ลูกแพร์ หอยนางรม เป๋าฮื้อ หอยเชลล์ กุ้ง ล็อบสเตอร์ ปลาน้ำลึก ปลาค็อด ปลาแซลมอน ช็อกโกแลต  แอลกอฮอล์ กาแฟ สูบบุหรี่  อาหาร เพิ่มพลังรัก กล้วย เชอร์รี่ หอย ผัก ผลไม้ เชอรี่, สตรอเบอร์รี่ ราสเบอรี่ มะเขือเทศ กล้วย องุ่น แอปริคอต แอปเปิ้ล มะม่วง มะละกอ พีช มะพร้าว ลูกแพร์ หอยนางรม เป๋าฮื้อ หอยเชลล์ กุ้ง ล็อบสเตอร์ ปลาน้ำลึก ปลาค็อด ปลาแซลมอน ช็อกโกแลต  แอลกอฮอล์ กาแฟ สูบบุหรี่

กูร์เมต์ เลิฟ อันดับหนึ่ง ขอยกให้ ผักและผลไม้ ปลอดสารเคมี เพราะช่วยทำให้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายแข็งแรง และฟิตปั๋ง พร้อมสำหรับการเมคเลิฟอย่างเต็มที่!! โดยเฉพาะประเภทที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ดีทั้งต่อสุขภาพและชีวิตรักร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็น เชอรี่, สตรอเบอร์รี่, ราสเบอรี่, มะเขือเทศ, กล้วย, องุ่น, แอปริคอต, แอปเปิ้ล, มะม่วง, มะละกอ, พีช, มะพร้าว และลูกแพร์ เช่นเดียวกับพืชผักที่มีรูปทรงยาว อาทิ แอสปารากัส, แครอท, เซเลรี่, ข้าวโพด, แตงกวาและมะเขือม่วง ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ นอกจากนี้ ยังมีพืชผักตระกูลอื่นๆที่ปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศให้คึกคักไม่มีหงอย ที่คุ้นเคยกันดีได้แก่ กระเทียม, หอมใหญ่, เมล็ดพริกไทย, พาร์สลีย์, ถั่วเหลือง, ผักโขม และเห็ดทรัฟเฟิล

อาหาร เพิ่มพลังรัก กล้วย เชอร์รี่ หอย ผัก ผลไม้ เชอรี่, สตรอเบอร์รี่ ราสเบอรี่ มะเขือเทศ กล้วย องุ่น แอปริคอต แอปเปิ้ล มะม่วง มะละกอ พีช มะพร้าว ลูกแพร์ หอยนางรม เป๋าฮื้อ หอยเชลล์ กุ้ง ล็อบสเตอร์ ปลาน้ำลึก ปลาค็อด ปลาแซลมอน ช็อกโกแลต  แอลกอฮอล์ กาแฟ สูบบุหรี่

อีโรติก ฟู้ด กระตุ้นพลังรักให้สูบฉีด ยังรวมถึง อาหารทะเลที่มีเปลือก ซึ่งอุดมไปด้วยสังกะสี แร่ธาตุสำคัญใช้ในการสร้างฮอร์โมนเพศ มีอาทิ หอยนางรม, เป๋าฮื้อ, หอยเชลล์, กุ้ง, ล็อบสเตอร์ และปลาน้ำลึก เช่น ปลาค็อด, ปลาแซลมอน และฮาลิบัต ซึ่งบำรุงร่างกายและสมอง ตลอดจนกระตุ้นเลิฟ พาวเวอร์

เนื้อสัตว์ไขมันต่ำและย่อยง่าย เช่น เนื้อไก่ และไก่งวง ก็เป็นโปรตีนดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และส่งผลดีต่อเซ็กซ์ไลฟ์ด้วย เช่นเดียวกับโปรตีนจากถั่ว, เมล็ดพืช (โดยเฉพาะเมล็ดฟักทอง) และธัญพืช ที่เป็นแหล่งรวมโปรตีนชั้นเลิศ ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างน่าทึ่ง!!

อาหาร เพิ่มพลังรัก กล้วย เชอร์รี่ หอย ผัก ผลไม้ เชอรี่, สตรอเบอร์รี่ ราสเบอรี่ มะเขือเทศ กล้วย องุ่น แอปริคอต แอปเปิ้ล มะม่วง มะละกอ พีช มะพร้าว ลูกแพร์ หอยนางรม เป๋าฮื้อ หอยเชลล์ กุ้ง ล็อบสเตอร์ ปลาน้ำลึก ปลาค็อด ปลาแซลมอน ช็อกโกแลต  แอลกอฮอล์ กาแฟ สูบบุหรี่

อย่างไรก็ดี อาหารที่ทำให้เซ็กซ์เสื่อม ก็น่าศึกษาไว้เป็นข้อมูลเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการตกม้าตายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์!! ประเภทที่จัดอยู่ในข่ายต้องห้ามได้แก่ อาหารรสหวานจัด, เค็มจัด, อาหารมันจัด, อาหารที่มีส่วนประกอบของครีมซอส, อาหารสำเร็จรูป รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์, กาแฟ และสูบบุหรี่อย่างหนัก ล้วนแต่เป็นตัวการทำลายอารมณ์รัก

ยกเว้น ดาร์ก ช็อกโกแลต ที่ดู เหมือนจะริช และอ้วน แต่อันที่จริงเป็นหนึ่งในกูร์เมต์ เลิฟที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟิน, ช่วยผ่อนคลายความ เครียด แถมยังจุดประกายรักให้ลุกพรึบในเวลารวดเร็ว มีติดตู้เย็นไว้สักกล่องสองกล่อง รับรองไม่ผิดหวัง!!

ที่มาจาก ไทยรัฐ

โทษของบะหมี่สำเร็จรูป

โทษของบะหมี่สำเร็จรูป
โทษ บะหมี่ สำเร็จรูป มาม่า วิธีทุ ถูกวิธี สุขภาพ ร่างกาย ผู้หญิง

ใครที่ชอบทานบะหมี่สำเร็จรูปเป็นประจำ ทราบหรือไม่ว่า บะหมี่สำเร็จรูปมีโทษต่อร่างกายอย่างไรบ้าง วันนี้เกร็ดความรู้มีโทษของบะหมี่สำเร็จรูปมาบอกกัน...

ส่วนประกอบของบะหมี่สำเร็จรูปส่วนใหญ่เป็นแป้งสาลีถึง 60-70% ส่วน 15-20% เป็นไขมัน (อยู่ในเครื่องปรุง) ที่เหลืออีก 5-6% เป็นเกลือและผงชูรสล้วน ๆ เพราะฉะนั้นถ้าทานบะหมี่สำเร็จรูปมากกว่า 1 ซองต่อวัน ร่างกายก็จะได้รับปริมาณโซเดียมเกินความต้องการถึง 50-100% ซึ่งเป็นอันตรายต่อไต และยังจะทำให้ความดันโลหิตสูงอีกด้วย

ต่อไปนี้ถ้าอยากจะทานบะหมี่สำเร็จรูปก็ควรจะทำตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณะสุข

- ใส่ไข่ ผัก หรือเนื้อสัตว์ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มสารอาหารและป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป

- ควรเลือกซื้อบะหมี่สำเร็จรูปที่เขียนว่า เพิ่มสารไอโอดีน ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ ไว้หน้าซอง

- ไม่ควรทานบะหมี่สำเร็จรูปดิบ ๆ เพราะเส้นบะหมี่จะไปพองตัวในกระเพาะ อาจทำให้ท้องอืดได้

- ที่สำคัญที่สุดคือไม่ควรทานบะหมี่สำเร็จรูปมากกว่าวันละ 1 ซอง เพื่อป้องกันโรคที่เกิดกับไต และโรคความดันโลหิต

รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าทานบะหมี่สำเร็จรูปเกินวันละ 1 ซอง เพื่อสุขภาพที่ดี

ที่มาจาก เดลินิวส์

"ลูกเดือย" ธัญพืชเพื่อสุขภาพ

"ลูกเดือย" ธัญพืชเพื่อสุขภาพ

ลูกเดือย  ธัญพืช สุขภาพ อาหาร Health

"ทำไมคุณย่าถึงชอบต้มลูกเดือยร้อนๆ ไว้ทานทุกเช้าล่ะครับ"

เจ้าหลานชายตัวน้อยเอ่ยถามคุณย่า เพราะถึงแม้เขาจะคุ้นเคยดีกับการกินลูกเดือย ทั้งลูกเดือยต้มหรือลูกเดือยที่เป็นส่วนผสมหนึ่งในน้ำอาร์.ซี. ที่คุณย่าชอบทานก็ตามที แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าลูกเดือยเมล็ดกลมๆ นี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง คุณย่าจึงเล่าถึงสรรพคุณดีๆ ของลูกเดือยว่า

  • คุณค่าทางอาหาร ลูกเดือยมีฟอสฟอรัสอยู่ในปริมาณสูง จึงช่วยบำรุงกระดูก รองลงมามีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และมีวิตามินบีหนึ่งมาก ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเหน็บชา อีกทั้งเป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายสูง จึงมีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง และเหมาะสำหรับคนไข้พักฟื้น
  • คุณค่าทางยา ใช้ชงป็นยาเย็น ขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน บำรุงไต กระเพาะอาหาร ม้าม รวมทั้งบำรุงเลือดลมในสตรีหลังคลอด รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง

นอกจากนี้ ในตำรายาจีนยังใช้ลูกเดือยบดผสมข้าว ต้มเป็นข้าวต้มกินทุกวันเพื่อบำรุงกำลัง ช่วยหล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บวมน้ำ ปวดข้อเรื้อรัง ทั้งยังเชื่อว่าการรับประทานลูกเดือยต้มน้ำตาลสามารถที่จะแก้ร้อนในได้อีก

"นอกจากลูกเดือยจะทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านแล้ว ยังเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้สูงอายุและคนทุกวัยอีก รู้อย่างนี้ ผมต้องขอเติมอีกชามแล้วล่ะครับ" หลานชายตัวน้อยพูดพร้อมยื่นชามใบเดิมให้คุณย่าทันที

ขอขอบคุณ นิตยสารชีวจิต

มาเพิ่มอาหารให้ สมอง กันเถอะ

มาเพิ่มอาหารให้ สมอง กันเถอะ

สุขภาพ อาหาร ดูแล ร่างกาย ธัญพืช
‘เฮ้อ! ช่วงนี้เป็นอะไรไปนะ หัวตื้อๆ คิดอะไรไม่ค่อยออกเลย แถมยังลืมนั่นลืมนี่เป็นประจำเสียด้วยสิ’ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมี ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่จะต้องหันมาดูแลสมองให้มากกว่านี้เพราะผู้หญิงทำงานอย่างเราจำเป็นต้องใช้สมองคิดนั่นคิดนี่อยู่ตลอดเวลา หากยังทำเมินปล่อยปละละเลยไม่สนใจ

ระวัง! คราวหน้าคุณอาจจะลืมหน้าแฟนไปเลยก็ได้นะคะ ว่าแล้ว ขอแนะนำอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงสมองมาให้สาวๆ ได้รู้จักกัน เริ่มที่...
1.ธัญพืช
สาวขี้ลืมอย่างนี้ ต้องหันมากินอาหารที่มีธัญพืชสูงแล้วค่ะ เช่น ซีเรียลธัญพืช รำข้าว หรือข้าว-ซ้อมมือเพราะจากผลการศึกษาพบ ว่า ผู้หญิงที่ได้รับกรดโฟลิกมากๆ วิตามินบี 12 และวิตามินบี 6 จะมีความจำดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับสารอาหารเหล่านี้เลย
2.บลูเบอร์รี่
จากการวิจัยของ Tufts University สหรัฐอเมริกา ได้แนะนำว่าสารสกัดจากบลูเบอร์รี่สามารถช่วยป้องกันอาการความจำสั้นได้ค่ะ

3.ไขมันจากปลา
กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างกรดโอเมก้า 3 ที่พบในปลาที่มีไขมัน หรือไขมันจากวอลนัทและเมล็ดจากต้นแฟล็กซ์ จะมี DHA (Decosapentaenoic Acid) สูง ซึ่งเป็นกรดที่สำคัญต่อเซลล์สมองของเรา เพราะถ้าหากระดับของ DHA ในร่างกายต่ำ จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์และความจำเสื่อมได้ นอกจากนี้ปลาก็ยังมีไอโอดีน ช่วยให้ความจำดีขึ้นด้วยค่ะ

4.มะเขือเทศ
มีหลักฐานยืนยันว่า ไลโคพีนซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่พบในมะเขือเทศ สามารถช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระ ที่พบในอาการของโรควิกลจริตและโรคอัลไซเมอร์

5.ซีเรียล
คนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์จะมี Homocysteine อยู่ในปริมาณที่สูง กรดโฟลิกและวิตามินบี 12 จะสามารถช่วยขัดขวางการสะสมของ Homocysteine ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ และซีเรียลเองก็เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบี 12 แถมยังมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอีกด้วย ช่วยให้พลังงานนานและทำให้ความจำ Alert ตลอดทั้งวัน

6.Black Currant
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างความจำของเราให้ว่องไวขึ้น และแหล่งที่มีวิตามินซีอยู่เยอะก็คือ ต้น Black Currant นี่แหละค่ะ

7.เมล็ดฟักทอง
สังกะสีมีความสำคัญในการช่วยเพิ่มความจำและทักษะในการคิด ดังนั้น หากคุณกินเมล็ดฟักทองวันละ 1 กำมือ จะทำให้ได้รับสังกะสีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

8.บร็อกโคลี
เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินเค ช่วยเพิ่มสมรรถภาพในการเรียนรู้และช่วยเพิ่มความสามารถในการจำ

9.ถั่ว
จากผลการวิจัยที่ลงใน American Journal of Epidemiology ได้แนะนำเอาไว้ว่า วิตามินอีช่วยในการป้องกันความจำเสื่อม และถั่วเองก็เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินอี นอกจากนี้วิตามินอียังพบได้ในผักใบเขียว เมล็ดพืช ไข่ ข้าวซ้อมมือ และธัญพืชค่ะ
สุขภาพ อาหาร ดูแล ร่างกาย ธัญพืช

Woman plus Vol.8 No. 402 (14 September 2007)

http://www.gmgroup.in.th/

กินอย่างไรให้เผาผลาญดี

กินอย่างไรให้เผาผลาญดี

สิ่งที่ฟ้องว่าอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเริ่มจะลดลงไปตามวัย ได้แก่ น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น และเซลลูไลท์ตามหน้าท้อง แขน ขา สะโพก ซึ่งการออกกำลังกายถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเร่งเผาผลาญพลังงานส่วนเกินเหล่านี้ แต่วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยคุณได้อีกแรงก็คือการกินอาหารอย่างถูกต้องค่ะ

ลดแป้ง น้ำตาล ไขมัน - การกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงมากๆ จะทำให้ปริมาณอินซูลินในเลือดเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้การเผาผลาญไขมันในร่างกายลดลง นอกจากนี้การกินไขมันมากก็ยังทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานเชื่องช้าลงด้วย

เน้นโปรตีนและผัก - การย่อยอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นกิจกรรมที่ร่างกายต้องใช้พลังงานอย่างมาก ดังนั้นการกินเนื้อปลา เนื้อหมูไม่ติดมัน เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ฯลฯ จะช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าโปรตีนที่เหลือจากการใช้งานจะกลายเป็นไขมัน ดังนั้นอย่ากินมากจนเกินไปค่ะ อ้อ...ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงก็ขาดไม่ได้นะคะ เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานด้วย

กินน้อยแต่บ่อยขึ้น - การกินมื้อละน้อยโดยแบ่งออกเป็นมื้อย่อยๆ หลายมื้อ เช่น เช้า สาย กลางวัน บ่าย เย็น เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายมีกิจกรรมย่อยอาหารและเผาผลาญพลังงานตลอดทั้งวันอย่างต่อเนื่อง

ดื่มน้ำให้มาก - เพราะร่างกายต้องใช้น้ำในกิจกรรมย่อยอาหาร การดื่มน้อยอาจทำให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมทั้งระบบเผาผลาญพลังงานการติดขัดได้



บทความจากนิตยสาร WOMAN PLUS

woman plus

ข้อห้ามเมื่อเข้านอน

ข้อห้ามเมื่อเข้านอน

ข้อห้าม นอน สุขภาพ พักผ่อน หลับ เกร็ด ความรู้ เคล็ดลับ เทคนิค

การนอนคือการพักผ่อน หลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน แล้วนอนอย่างไรไม่ให้เสียสุขภาพ วันนี้เกร็ดความรู้มีข้อห้ามทำก่อนนอนมาบอกกัน เพื่อสุขภาพที่ดี...

1. อย่าใส่นาฬิกาข้อมือนอน เพราะขณะที่นาฬิกาทำงานไปเรื่อย ๆ นั้น ล้วนปล่อยพลังงาน ถ้าใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผลต่อสุขภาพระยะยาว

2. ไม่ควรนอนหลับไปพร้อม ๆ กับโทรศัพท์ หรือวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ ๆ ใครที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือไว้ห่าง ๆ เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า โทรศัพท์มือถือ จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาขณะเปิดเครื่องไว้ และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาท เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ควรปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า

3. อย่าหลับไปพร้อมกับเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้ายังไง ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพราะการหลับทั้ง ๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้า จะทำให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว

4. (สำหรับสาว ๆ เท่านั้น) อย่าใส่ยกทรงนอน เพราะนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน พบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้ ฉะนั้น ก็อย่าใส่ยกทรงนอนเลย

รู้ข้อห้ามแล้ว ก็ลองปฏิบัติกันดู เพื่อการนอนที่ดี.

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์

สตรอเบอร์รี่ ผลไม้แห่งสุขภาพ

สตรอเบอร์รี่ องุ่นแดง ผลไม้ มะเขือเทศ ลูกแพร ส้ม กีวี กล้วยหอม สุขภาพ มะเร็ง อนุมูลอิสระ โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหวัด โรคภูมิแพ้


สตรอเบอร์รี่ ผลไม้แห่งสุขภาพ

พืชผักผลผลิตของโครงการหลวง ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องคุณภาพคับแก้ว โดยเฉพาะ “สตรอเบอร์รี่” ปลูกได้ผลดี ลูกใหญ่รสหวานฉ่ำ ไม่แพ้สตรอเบอร์รี่อิมพอร์ตจากเมืองนอกเมืองนา และด้วยความภาคภูมิใจเป็นนักหนา มูลนิธิโครงการหลวง จึงจับมือกับห้างฯเซ็นทรัล ชิดลม จัดงาน “โครงการหลวง สตรอเบอร์รี่แฟร์” ที่ดิ อีเวนท์ฮอลล์ ชั้น 3 ระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ.นี้ เพื่อต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึง

ภายในงานแฟร์ครั้งนี้ มีไฮไลต์อยู่ที่นิทรรศการ “สตรอเบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน” นำสตรอเบอร์รี่สายพันธุ์พระราชทานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พันธุ์พระราชทาน 50, พันธุ์พระราชทาน 70 และพันธุ์พระราชทาน 72 มาจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด พร้อมเดินชมแปลงปลูกสตรอเบอร์รี่จำลอง และสามารถทดลองเด็ดผลสดๆจากต้นชิมดูได้โดยไม่หวงห้าม นอกจากนี้ ยังจัดจำหน่ายสตรอเบอร์รี่ทั้งสดและแปรรูปจากพันธุ์พระราชทาน รวมถึงสายพันธุ์อื่นๆ ให้ได้ซื้อหากันสนุกสนาน

อย่างไรก็ดี แม้คนไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับ “สตรอเบอร์รี่” เป็นอย่างดี แต่น้อยคนนักจะรู้ถึงคุณประโยชน์แท้จริงของผลไม้สีแดงฉ่ำรูปทรงน่ารักน่ากิน “สตรอเบอร์รี่” เป็นผลไม้ที่มีอานุภาพสูงมากในการต้านอนุมูลอิสระ (ต้นเหตุแห่งความแก่) แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซี, เอ, ฟอสฟอรัส และแคลเซียม จึงช่วยป้องกันโรคได้สารพัด ทั้งการเกิดมะเร็ง, โรคหลอดเลือดอุดตัน, โรคหวัด และโรคภูมิแพ้ ผลการศึกษาทาง การแพทย์ ยังพบว่า เมื่อเทียบน้ำหนักที่เท่ากันกับผลไม้ชนิดอื่นๆ “สตรอเบอร์รี่” มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่า “ส้ม” ถึงหนึ่งเท่าครึ่ง, สูงกว่า “องุ่นแดง” สองเท่า, สูงกว่า “กีวี” สามเท่า, สูงกว่า “กล้วยหอม” กับ “มะเขือเทศ” เจ็ดเท่า และสูงกว่า “ลูกแพร” ถึงสิบห้าเท่า!!

มากประโยชน์ขนาดนี้ แถมยังหน้าตาน่ารักน่าหม่ำซะไม่มี คู่รักยุคใหม่ น่าจะเปลี่ยนเทรนด์ หันมามอบ “สตรอเบอร์รี่” เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ แทนกุหลาบช่อใหญ่ หรือ ตุ๊กตาหมีแบบเดิมๆ ซึ่งแสนจะสิ้นเปลือง...ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ปีนี้ คนมีคู่ หรือไม่มีคู่ ก็แวะไปอุดหนุนสตรอเบอร์รี่สายพันธุ์เลิศ ได้ที่เซ็นทรัล ชิดลม.

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ

5 อาหารสุขภาพที่คุณควรระวัง

5 อาหารสุขภาพที่คุณควรระวัง

อาหาร สุขภาพ การกิน ผู้หญิง ความงาม ถึงฉลากจะบอกว่าดีสำหรับคุณ แต่ข้อความที่ติดอยู่ข้างบรรจุภัณฑ์ก็ไม่จำเป็นต้องหมายความอย่างนั้นเสมอไป อย่าลืมว่าแผนการตลาด ‘ไขมันต่ำ’ และ ‘คุณค่าทางอาหารสูง’ อาจจะทำให้คุณเขวเหมือนกับหลายคนที่หลงกลกับเรื่องง่ายๆ เพราะฉะนั้น สิ่งที่คุณควรทำทุกครั้งก่อนเลือกซื้ออาหารสุขภาพคือ คำนวณคุณประโยชน์จริงๆ มากกว่าเชื่อในหน้าตาอาหารที่เห็นหรือเฉพาะข้อความโฆษณา และต่อไปนี้คือ 5 รายการอาหารสุขภาพที่คุณควรจะหันมาพิจารณา

ทุกครั้งก่อนที่จะเลือกซื้อหรือรับประทาน
* โยเกิร์ตผสมเนื้อผลไม้ : ในด้านหนึ่ง ดูยังไงโยเกิร์ตและผลไม้ก็เป็นอาหารที่มuประโยชน์ ในมุมมอง ของผู้ชายที่เข้าฟิตเนสและรักสุขภาพร่างกาย แต่ในอีกด้านหนึ่ง น้ำเชื่อมที่อยู่ในโยเกิร์ต ผสมเนื้อผลไม้นั้นไม่ใช่

ทั้งโยเกิร์ตและผลไม้ล้วนมีความหวานในตัวอยู่แล้ว น้ำเชื่อมเป็นความหวานเกินพอดีจากน้ำตาลที่เพิ่มเข้าไป คุณจึงควรเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความหวานเกินจำเป็นที่ว่า ด้วยการกินโยเกิร์ตควบคุมน้ำตาล หรือมีน้ำตาลต่ำกว่าโยเกิร์ตที่กินเป็นประจำ
* แคลิฟอร์เนีย โรล : ภาพที่เห็นคือสาหร่ายที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสารอาหารห่อข้าว มีไอโอดีน เซเลเนียม แคลเซียม และโอเมก้าที่ช่วยบำรุงสมองเป็นส่วนประกอบ แน่นอน, คุณรู้ว่ามันให้ประโยชน์มากแค่ไหน

แล้วภายใต้ชั้นสาหร่ายนั้นล่ะ ลองมาดูกันหน่อยว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้นประกอบด้วยอะไร ถ้าไม่ใช่น้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่น (หุงด้วยน้ำตาลและน้ำส้มสายชู) และเนื้อปูอัดอีกนิดหน่อย รวมๆ แล้วแคลิฟอร์เนีย โรลคำใหญ่จึงมีแต่แป้ง น้ำตาล และเกือบจะไม่มีโปรตีนเลย ทางออก ก็คือ การกินซูชิ ที่ทำจากทูน่าหรือแซลมอน ความหลากหลายของโปรตีนในซูชิจะให้ปริมาณโปรตีนแบบเต็มๆ เยอะกว่ามาก และมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อย ถ้ายังไม่พอใจคุณจะสั่งเมนูซาชิมิ เลี่ยงข้าว รับโปรตีนไปเต็มๆ เลยก็ยังไหว รับรองได้ว่าอร่อยและปลอดภัยจากน้ำตาลแน่นอน
อาหาร สุขภาพ การกิน ผู้หญิง ความงาม
อาหาร สุขภาพ การกิน ผู้หญิง ความงาม
* น้ำสลัดไขมันต่ำ : ดูเหมือนว่าน้ำสลัดไขมันต่ำจะช่วยลดไขมันและลดแคลอรี แต่ที่จริงแล้ว คุณรู้ไหมว่าน้ำตาลถูกเพิ่มเข้าไปแทนที่เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี และที่แย่กว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าไขมันที่ซึมซับวิตามินได้ถูกแยกออกไป เนื่องจากนักวิจัยมหาวิทยาลัยโอไฮโอค้นพบว่า ร่างกายของคนที่กินผักกับน้ำสลัดธรรมดาดูดซึมเบตาแคโรทีนซึ่งมีคุณสมบัติของแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยป้องกันการก่อมะเร็งได้มากกว่าถึง 15 เท่า และดูดซึมลูเทียน (Lutein) สารสีเหลืองซึ่งมีส่วนช่วยในการสกัดกั้นการอุดตันของเส้นเลือดในปริมาณที่มากกว่า

น้ำสลัดไขมันต่ำจึงอาจไม่ใช่ทางออกของอาหารสุขภาพที่คุณกำลังมองหา ในเวลาเดียวกันคุณสามารถกินน้ำสลัดทั่วไปได้แต่ในปริมาณน้อย หรือเลือกกินน้ำสลัดที่ทำจากน้ำมันมะกอกและน้ำมันดอกคาโนลา (Canola Oil ) ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ได้
* ธัญพืชชนิดแท่ง : ทุกคนรู้ว่ามันทำมาจากโฮลวีต ข้าวโอ๊ต และธัญพืชอื่นๆ ที่ให้ไฟเบอร์หรือเส้นใยสูง แต่สิ่งที่คุณลืมคือ เมล็ดพืชและธัญพืชเหล่านี้ถูกทำให้มีความเหนียวติดกันด้วยส่วนผสมอย่างน้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรักโทสสูงและน้ำผึ้ง สิ่งที่พูดมาทั้งหมดทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณค่อยๆ สูงขึ้น คุณจึงควรเผื่อเวลาสำหรับกินให้อิ่มและจบไปเป็นมื้อๆ หรือถ้าต้องการเพิ่มพลังงานจริงๆ คุณควรจะกินธัญพืชที่เตรียมด้วยตัวเอง แทนที่จะฝากชีวิตไว้กับธัญพืชชนิดแท่งในกระเป๋าทุกวัน

อาหาร สุขภาพ การกิน ผู้หญิง ความงาม * น้ำมันข้าวโพด : คุณรู้แต่เพียงว่า น้ำมันข้าวโพดมีกรดโอเมก้า 6 และไขมันไม่อิ่มตัว จึงไม่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่า ความเป็นจริงแล้ว น้ำมันข้าวโพดมีโอเมก้า 6 มากกว่าโอเมก้า 3 ที่พบในปลาและวอลนัทถึง 60 เท่า ซึ่งผลการศึกษาพบว่าการกินโอเมก้า 6 มากเกินไปมีเหตุเกี่ยวโยงที่ทำให้เพิ่มการติดเชื้อซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง รวมทั้งโรคข้ออักเสบ ข้อเสื่อม รวมทั้งโรคอ้วนได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น น้ำมันมะกอกและน้ำมันจากดอกคาโนลา ซึ่งมีสัดส่วนของโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ที่ต่างกันในปริมาณพอเหมาะจึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ในบรรดาประเภทของน้ำมันทั้งหมด

เรื่องจาก GM Vol.21 No.342 January 2007

สับปะรดลดหวัด เพื่อสุขภาพ

สับปะรดลดหวัด เพื่อสุขภาพ


สัปปะรด สุขภาพ เป็นหวัด วิตามิน กิน ผลไม้

สับปะรด เป็นผลไม้อมหวานอมเปรี้ยว ที่สามารถนำไปทำอาหารทั้งคาว และหวานได้อร่อยหลายชนิด และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ร่างกายมากมายโดยที่คุณอาจไม่รู้

หากเรากินสับปะรด หลังอาหาร เราจะรู้สึกเบาสบายท้องและไม่อึดอัด เพราะสับปะรดมีความสามารถในการช่วยย่อย โดยเฉพาะในสารอาหารโปรตีน เราจึงเห็นคนส่วนใหญ่ใช้สับปะรดในการหมักเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้นุ่มขึ้น รวมถึงสับปะรดอุดมไปด้วยวิตามินซีสูงจึงช่วยเสริมสุขภาพ และภูมิต้านทานโรคได้ดีขึ้น

กินสับปะรดบ่อยๆ ทำให้สุขภาพดี ไม่ค่อยเป็นหวัด และในสับปะรดยังมีโพแทสเซียมสูงที่ช่วยป้องกันการเป็นตะคริวและลดความดันได้



นอกจากนี้สับปะรดยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้เป็นอย่างดี ส่วนปริมาณที่เหมาะสมของสับปะรด ในการบริโภคก็คือ 100 กรัมต่อวัน และควรกินสับปะรดสดๆ โดยไม่ผ่านการประกอบอาหารที่ใช้ความร้อนเพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามินต่างๆ ไป เพื่อสุขภาพ ที่ดีของคุณ

ที่มา : หนังสือสารอาหารดีดี อยู่ 120 ปีไม่มีโรค

ประโยชน์ของ เบอร์รี่ทั้งหลาย




ใครชอบรับประทานเบอร์รี่กันหรือเปล่าคะ ถ้าส่วยหน้ากันล่ะก็ คงอาจจะต้องเปลี่ยนใจ ถ้าได้รู้ว่าผลไม้จำพวกเบอร์รี่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเรามากแค่ไหน

ผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่มีมากมาย เช่น บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ เป็นต้น สีจัดจ้านของผลไม้กลุ่มนี้ใช่ว่าจะดูเพียงน่ารัก น่ารับประทานแต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่ามหาศาล เมื่อไม่กี่ปีมานี้มีการศึกษาวิจัย (ที่ถึงแม้ว่าจะทำในสัตว์ทดลองก็ตามเถอะ) ที่พบว่าหนูที่เป็นมะเร็งช่องปาก, หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่ ถ้ากินแบล็คราสป์เบอร์รี่เป็นประจำแล้วมะเร็งจะลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับหนูที่ไม่ได้กินเบอร์รี่เป็นประจำ





จริงๆ แล้วเริ่มมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเบอร์รี่และมะเร็งเกือบเมื่อ 30 ปีที่แล้วหลังจากที่นักวิทยาศาสตร์พบว่า กรดผลไม้หลายชนิดที่มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ และผลไม้จำพวกเบอร์รี่มีกรดชนิดนี้อยู่มาก นอกเหนือไปจากฤทธิ์ต้านมะเร็ง เบอร์รี่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวยงเลยทีเดียว และเบอร์รี่แต่ละชนิดก็จะมีฤทธิ์ต่างกันเล็กน้อยในด้านผลดีต่อสุขภาพ เช่น บลูเบอร์รี่จะเด่นด้านสุขภาพตา ช่วยป้องกันต้อกระจกหรือต้อหิน ป้องกันการติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะ และอาจมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด สตรอเบอร์รี่จะเด่นด้านบำรุงและป้องกันระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น แต่โดยรวมๆ สารต้านอนุมูลอิสระ อันหลากหลายในเบอร์รี่จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มการทำงาน และลดการอักเสบของหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคทางระบบประสาทและสมอง มีงานศึกษาวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับสตรอเบอร์รี่ว่าผลไม้ชนิดนี้ อาจจะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความเสื่อมของระบบประสาทได้





ปลอดภัยหรือไม่ รับประทานอย่างไรดี
โดยทั่วไปแล้วการรับประทานผลไม้จำพวกนี้เป็นอาหารตามปกติมักไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพค่ะ แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น ถ้ารู้ว่าจะต้องผ่าตัดควรงดรับประทานบลูเบอร์รี่ 2 สัปดาห์ เพราะบลูเบอร์รี่อาจจะมีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ก่อนและหลังการผ่าตัดได้ นอกจากนี้ใบของเบอร์รี่ก็มีสรรพคุณเป็นยา เช่น ใบของเรดราสป์เบอร์รี่อาจมีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเพศหญิง ต้องระวังในกรณีที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม, มะเร็งมดลูกและรังไข่ จะเลือกรับประทาน ผลไม้สด น้ำผลไม้ ผลไม้แช่แข็งหรือตากแห้งน้ำตาลจะเยอะน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นได้ ถ้าปรุงโดยผ่านความร้อนสรรพคุณของฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจะลดลงได้



สำหรับผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผลไม้ ลองทำสตรอเบอร์รี่ มาการิต้า จิบสักดริ๊งค์อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะคะ

สตรอเบอร์รี่ มาการิต้า
• สตรอเบอร์รี่งามๆ 4 ลูก
• น้ำมะนาว 1 ช็อต (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำเชื่อม 1/2 ช็อต (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ)
......................

เอาทั้งหมดปั่นรวมกัน แล้วนำมาเชคอีกทีกับน้ำแข็ง 2-3 ก้อน ให้เย็นๆ เอาแก้วมาการิต้ามาทามะนาวที่ขอบปากแก้วแล้วคว่ำแก้วลงบนเกลือป่น ให้เกลือติดที่ปากแก้ว เทน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นที่เชคแล้วลงในแก้ว (เอาแต่น้ำไม่เอาน้ำแข็ง) เท่านี้ก็ได้เบอร์รี่แสนอร่อยแล้วค่ะ





* คนที่เป็นเบาหวาน ควรทำน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำตาลเทียมแทน
* ควรดื่มเปล่าๆ โดยไม่เติมเกลือสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง



ขอบคุณที่มาบทความจาก womam plus